วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ


หน่วยที่ 7
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับการเรียนการสอน

1.  แหล่งข้อมูลการสืบค้นบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
                หลักการค้นหาข้อมูลความรู้ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์
                ในการทำงานต่างๆ เช่น นักศึกษาทำการบ้านหรือทำรายงานส่งอาจารย์  หรือพนักงานบริษัทเตรียมการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ  มักจะต้องมีการหาข้อมูลประกอบการทำงานนั้นๆ บางครั้งข้อมูลอาจเป็นเพียงข้อมูลง่ายๆ เช่น ราคาสินค้า อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินบาทกับดอลลาร์สหรัฐ เป็นต้น  แต่บางครั้งอาจเป็นข้อมูลเชิงลึกที่ต้องมีการวิเคราะห์ เช่น แนวโน้มสภาวะเศรษฐกิจโลกในช่วง 1-2 ปี ซึ่งต้องมีการพิจารณาปัจจัยต่างๆ รวมถึงเหตุการณ์ที่อาจเกิดหรือไม่เกิดในอนาคตประกอบด้วย ดังนั้นคำว่า ข้อมูลความรู้ในที่นี้  จะรวมหมายถึงตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐาน  และข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลและ/หรือจัดหมวดหมู่แล้วซึ่งเรียกว่า สารสนเทศ ตลอดจนถึงข้อมูลเชิงลึกที่มีการวิเคราะห์ซึ่งควรจะเรียกได้ว่าความรู้ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เราสามารถค้นหาได้จากเครือข่ายคอมพิวเตอร์  ต่อไปนี้เราจะใช้คำว่าข้อมูลในความหมายกว้างที่รวมทั้งข้อมูล สารสนเทศ และความรู้ด้วย
                หลักการค้นหาข้อมูลมีดังต่อไปนี้
1.                ต้องมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับข้อมูลที่ต้องการ คือ
1)            รู้ว่าข้อมูลที่ต้องการนั้นเป็นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องอะไร
2)            รู้ว่าแหล่งข้อมูลที่มีข้อมูลนั้น น่าจะเป็นหน่วยงานใด
3)            รู้ว่าสำคัญที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลนั้น  มีอะไรบ้าง
2.                ต้องรู้จักวิธีเข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ
3.                ต้องรู้จักวิธีใช้โปรแกรมสืบค้นข้อมูล หรือ เซิร์จเอ็นจิน (Search engine)
4.                ต้องรู้จักใช้ดุลพินิจว่า
1)            ข้อมูลที่ได้มาเป็นข้อมูลที่ตรงกับความต้องการหรือไม่
2)            ข้อมูลที่ได้มาเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้หรือไม่

การค้นหาข้อมูล
1.       เครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบต่าง ๆ และข้อมูลที่มีอยู่ในเครือข่าย
                                นักศึกษาได้รู้จักคำว่า เครือข่าย และได้ทราบว่าระบบโทรศัพท์เป็นเครือข่ายสื่อสารอีกชนิดหนึ่ง คอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่องที่นำมาต่อเชื่อมกันสามารถรับส่งข้อมูลระหว่างกันได้เป็นเครือข่ายอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งทำให้คอมพิวเตอร์มีบทบาทในฐานะเครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ เมื่อผนวกกับความสามารถของคอมพิวเตอร์ในการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ ดังตัวอย่างที่นักศึกษาได้ศึกษา เครือข่ายคอมพิวเตอร์จึงกลายเป็นแหล่งข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ จึงสามารถค้นหาข้อมูลเกือบทุกอย่างที่ต้องการใช้ในการทำงานจากเครือข่ายคอมพิวเตอร์
                                เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้  เป็นเครือข่ายประเภทต่าง ๆ  ที่สร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ของการจัดเก็บและแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยตรง
1.1          อินทราเน็ต (Intranet) เป็นเครือข่ายภายสำหรับองค์กรหนึ่ง ๆ ข้อมูลส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร  หรือข้อมูลเพื่อการใช้ประโยชน์ขององค์กร  คอมพิวเตอร์ที่ต่อเชื่อมกับเครือข่ายอาจอยู่ภายในตึกเดียวกัน  หรือกระจายกันอยู่ทั่วประเทศหรือทั่วโลกก็ได้ขึ้นอยู่กับว่าองค์กรนั้นมีขนาดเล็กหรือใหญ่  มีสาขามากน้อยเพียงใด  ตัวอย่างอินทราเน็ตขนาดใหญ่ เช่น อินทราเน็ตของบริษัท โตโยต้า จำกัดซึ่งมีสาขากระจายอยู่ทั่วโลก อินทราเน็ตประเภทนี้จะทำให้บริษัทขนาดใหญ่ที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วโลก สามารถดูแลการดำเนินธุรกิจของสาขาต่าง ๆ ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน
1.2          เอกซ์ทราเน็ต (Extranet)  เป็นเครือข่ายภายในสำหรับองค์กรเช่นเดียวกับอินทราเน็ต  แต่เปิดให้สมาชิกภายนอกที่ได้รับอนุญาตต่อเชื่อมกับเครือข่ายได้ด้วย ตัวอย่างเครือข่ายแบบนี้ ได้แก่  เครือข่ายของบริษัท  ปูนซีเมนต์ไทย  จำกัด  ที่มีร้านค้าวัสดุก่อสร้างต่างๆ เป็นสมาชิกของเครือข่ายด้วย เพื่อให้ร้านค้าเหล่านี้สามารถติดต่อสั่งซื้อสินค้าและรับบริการอื่นๆ  จากบริษัทโดยสื่อสารผ่านเครือข่ายนี้
                                ปัจจุบันนี้เครือข่ายเอกซ์ทราเน็ตได้ถูกนำมาใช้อย่างมากในการจัดการสินค้าคงคลัง(Inventory management)  สำหรับแหล่งจำหน่ายสินค้าขนาดใหญ่ประเภท  ห้างลดราคา (Discount Store)หรือซูปเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่ที่มีสาขามาก  แหล่งจำหน่ายสินค้าประเภทนี้จะมีเครือข่ายเอกซ์ทราเน็ตซึ่งบริษัทผู้ผลิตหรือผู้ขายส่งสินค้ารายใหญ่  เป็นสมาชิกของเครือข่าย  ข้อมูลสินค้าคงคลังจะเชื่อมโยนกับระบบการคิดเงินด้วยเครื่องอ่านรหัสแท่ง (Barcode)  และการตัดสต๊อกโดยอัตโนมัติ  เมื่อสินค้ารายการใดลดลงถึงระบบที่จะต้องสั่งเพิ่มแล้ว ข้อมูลจะถูกส่งไปแจ้งบริษัทผู้ผลิตหรือขายส่งสินค้านั้นโดยอัตโนมัติ  บริษัทนั้นก็จะนำสินค้ามาส่งได้ทันการ  หากไม่มีระบบอัตโนมัติที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศแล้ว การบริหารสินค้าคงคลังจะต้องใช้คนจำนวนมากและมีอัตราผิดพลาดสูง  ในโรงงานอุสาหกรรมขนาดใหญ่ก็เช่นเดียวกัน การสั่งซื้อชิ้นส่วนที่นำมาประกอบรถยนต์หรือเครื่องรับโทรทัศน์  ก็ใช้วิธีบริหารสินค้าคลังผ่านระบบเอ็กซ์ทราเน็ตเช่นเดียวกัน  ในบางกรณีบริหารสินค้าคงคลังสามารถทำได้ด้วยประสิทธิภาพสูงมาก  จนไม่ต้องมีคลังเก็บสินค้า(โกดัง)  สำหรับตุนชิ้นส่วนเผื่อไว้ใช้  แต่ชิ้นส่วนต่าง ๆ จะถูกส่งมาถึงโรงงานก่อนขณะที่ต้องการใช้เพียงเล็กน้อย  วิธีการบริหารการผลิตแบบนี้ เรียกว่า ระบบทำเวลาพอดี (Just-in-time system)
1.3          อินเทอร์เน็ต (Internet) ทั้งอินทราเน็ตและเอ็กซ์ทราเน็ต เป็นเครือข่ายส่วนบุคคลเนื่องจากมีเจ้าของและเจ้าของเป็นผู้กำหนดว่าใครบ้างสามารถเป็นสมาชิกของเครือข่ายได้ (Private network)  แต่อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายสาธารณะที่ไม่มีเจ้าของ  ทุกคนที่อยากต่อเชื่อมกับเครือข่ายสามารถต่อเชื่อมได้  เพียงแต่ปฏิบัติตามกติกาซึ่งมีคณะกรรมการอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศเป็นผู้กำหนด อินเทอร์เน็ตจำเป็นแหล่งข้อมูลเปิดแหล่งใหญ่ที่สุดของโลกที่มีข้อมูลสารพัดชนิด  ทั้งที่มีประโยชน์ เช่น ข่าวสาร และสารความรู้ต่าง ๆ และสิ่งที่เป็นพิษและเป็นภัย เช่น ภาพลามกอนาจารและข้อมูลกรรมวิถีการผลิตอาวุธร้ายแรงหรือยาเสพติด เป็นต้น ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตบ้างส่วนให้เปล่า บ้างส่วนเสียค่าสมาชิกถึงจะเข้าได้  นอกจากนี้อินเทอร์เน็ตปัจจุบันยังเป็นแหล่งซื้อขายสินและบริการ  ซึ่งมีทั้งขายปลีกขายส่งและการประมูล การค้าขายผ่านอินเทอร์เน็ตนั้น เรียกว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.4          รูปแบบของข้อมูลในเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ประเภทต่างๆ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั้ง 3 ประเภทที่กล่าวแล้ว เป็นเครือข่ายที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ต่างกัน  ดังนั้น  รูปแบบของการนำเสนอของข้อมูลและการเปลี่ยนแปลงข้อมูลจึงอาจแตกต่างกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของอินทราเน็ตและเอ็กซ์ทราเน็ต ซึ่งผู้ใช้บริการเป็นสมาชิกในวงปิดอาจใช้รูปแบบและวิธีการของตัวเอง แต่ในกรณีเป็นเครือข่ายสาธารณะจะต้องใช้รูปแบบและวิธีการที่เป็นมาตรฐานสากล สำหรับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตปัจจุบัน  รูปแบบการนำเสนอข้อมูลและวิธีการเปลี่ยนข้อมูลที่แพร่หลายมากจนกลายเป็นมาตรฐานไปแล้วคือรูปของ WWW ซึ่งมีอิทธิพลสูงมาก ทำให้เครือข่ายเกือบทุกประเภทเปลี่ยนมาใช้ตามเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากผู้ใช้มีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีแล้ว